คุณพระอาทิตย์
คุณพระอาทิตย์
เคยได้ยินประโยคนี้ป้ะ? ‘ชีวิตมันต้องมีอะไรให้ยึดเหนี่ยว ไม่งั้นคุณก็จะไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆเช่น เกมที่จะวางขายเดือนหน้า เฝ้ารอหนังสือที่จะออกเล่มต่อไป อัลบั้มเพลงของศิลปินที่ชอบชุดใหม่ หรือรอยยิ้มของใครสักคน’ เราว่าประโยคนี้ไม่ได้เกินจริงเลย ช่วงที่ผ่านมาเรามักจะมีคำถามเกิดขึ้นมาในหัวของตัวเองเสมอว่า คนเราเกิดมาทำไมวะ แล้วทำไมเราต้องเกิดมา เกิดมาก็เหนื่อย ชีวิตไม่เห็นเป็นเหมือนตอนเด็กที่วาดฝันเอาไว้เลย ทำไมเราถึงโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดหวัง แต่ไม่ได้น้อยใจในตัวเองหรืออะไรนะ เพียงแค่เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองเฉยๆ เพราะรู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันก็เรื่อย ๆ ไม่ทุกข์แต่ก็สุขไม่มาก พยายามจะยิ้มและขอบคุณกับทุก ๆเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต ขอบคุณประสบการณ์และทุกอย่างที่ทำให้เราเติบโตมาเป็นเราจนถึงทุกวันนี้ แต่บางวันก็ยิ้มไม่ออกจริง ๆว่ะ จะร้องก็ร้องไม่ออก เหมือนมันตันอยู่ในอก เราเป็นคนที่ไม่ได้เก็บความรู้สึกอะไรมากมายไว้กับตัวนะ แต่แค่รู้สึกว่าไม่อยากเอาความเศร้าของตัวเองมาทำให้คนรอบข้างเป็นทุกข์เท่านั้นเอง
เรื่องทุกข์ในชีวิตก็คงมีไม่กี่เรื่อง (แน่นอนว่าผู้ชายไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์แม้เราจะบ้าผู้ชายมากก็ตาม) ทุกข์สุดๆก็คงเป็นเรื่องเรียนนี้แหละ ถามว่าเรียนแล้วมันสนุกมั้ย มันก็สนุกในแบบของมัน แต่มันน่าเบื่อว่ะ แม่งใช้ชีวิตเหมือนเป็นนาฬิกาเรือนหนึ่งที่เดินครบเข็มชี้เลข 12 แล้วก็กลับมานับหนึ่งใหม่อีกครั้งอ่ะ ตื่น ไปเรียน กลับหอ ออกกำลังกาย อ่านหนังสือบ้าง นอน วนลูปเหมือนเดิม ยิ่งกว่าหนังเรื่อง doctor stranger อีก (ไปดู สนุกดี) รู้สึกว่าหมกมุ่นกับการเรียนมากเกินไปจนไม่มีเวลาทำอะไรเลย ความจริงถ้าจะทำมันก็มีแหละ แต่เราแค่แบ่งเวลาไม่ถูกเท่านั้น
เหนือกว่าการเรียนคือเราอยากออกไปใช้ชีวิตมากกว่า แต่ก็รู้ตัวเองดีว่าโลกความจริงแม่งโหดร้ายสัส บางทีก็คิดนะว่า ทำไมแม่กูไม่ถูกหวย200 ล้านเลยวะ จะเดินไปคณะพรุ่งนี้แล้วเซ็นต์ใบลาออกแม่งเลย แต่เพ้อเจ้อว่ะ ชีวิตจริงมันจะเป็นแบบนั้นได้ไง ต้องเป็นหนึ่งใน 70 ล้านกว่าคนที่จะถูกหวยในประเทศนี้ ผู้นำก็ห่วยแตก ฝนตกน้ำก็ท่วม รถก็ติด เฮ้อ ทำได้แค่บ่นแล้วทนอยู่ต่อไป เรื่องความทุกข์ของตัวเองนี้ก็พูดยากนะ เหมือนที่บอกไป ไม่อยากเอาความทุกข์ของตัวเองไปโยนให้ใครรับฟัง คนฟังก็ทุกข์ตาม เหมือนแม่ บางครั้งก็เหนื่อย เหนื่อยจนบางครั้งมันท้อว่า ทำไมต้องมาอยู่ในจุดที่ชีวิตไม่มีความสุขด้วย เหนื่อยเรื่องเรียนนี้แหละ พอพูดเรื่องนี้กับแม่ แม่ก็จะพลอยเครียดไปด้วย แม่บอกจะคิดมากทำไม แล้วพอเราเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็จะเครียดตาม สุดท้ายพอแม่เครียด เราก็รู้สึกว่าเครียดตามด้วย action = reaction = reaction อีกรอบ เราแค่รู้สึกว่าเราอยากจะพูดในสิ่งที่เราอยากพูดให้ใครสักคนฟัง แค่อยากมีคนรับฟังเรื่องที่เราเหนื่อยและท้อเฉยๆ ความจริงสิ่งที่เราพูดออกมามันเป็นแค่การระบาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราอยากทำสิ่งนั้น 100% แน่ ๆ (ในความรู้สึกอาจจะสัก 70% แต่ก็ไม่ใช่เต็มร้อย เกทป้ะ?) พอรู้ว่าพูดกับแม่ (ที่ปกติแล้วเราสามารถเล่าทุกอย่างให้ฟังได้ ทุกเรื่องเลยนะ ทุกเรื่องจริง ๆ) ไม่ได้เราก็เลยต้องมาเขียนระบายกับตัวเองในนี้แทน อย่างน้อยก็รู้สึกว่าก็ยังมีตัวเองแหละว้าที่รับฟังตัวเราเองและเข้าใจตัวเองได้มากที่สุด
แต่เราว่าเราหาที่ยึดเหนี่ยวของเราเจอแล้วว่ะ เป็นคนที่อบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ที่มีดวงเดียวในระบบสุริยะจักรวาลของกาแลกซี่ทางช้างเผือก เหมือนเกินไปจนทำให้เราที่เป็นแค่ต้นไม้โง่ๆต้นหนึ่งสัมผัสได้ถึงแค่ความอบอุ่นที่เขาแผ่มา แต่ต้นไม้ก็ไม่ได้มีแค่ต้นเดียวบนโลกใบนี้ป้ะ? เราหมายความว่า ความอบอุ่นของเขามันแผ่กระจายครอบคลุมไปทั่วโลกและเราก็ไม่ใช่แค่ต้นไม่ต้นเดียวที่ได้รับความอบอุ่นนั้น งั้นเราจะเรียกเขาว่า ‘คุณพระอาทิตย์’ ก็แล้วกันนะ มาฟังเรื่องของคุณพระอาทิตย์กันดีกว่า
คุณพระอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่กำลังส่งถ่ายพลังงานความร้อนให้แก่ต้นไม้ต้นอื่น ๆ และตัวเราที่อาศัยอยู่แต่ในที่ร่มจึงได้รับพลังงานความร้อนจากหลอดไฟหลายดวงเท่านั้น แสงแดดของคุณพระอาทิตย์จึงไม่ส่งถึงเราตั้งแต่ตอนแรก เพราะแกนของโลกที่เอียงทำให้องศาในการส่องแสงของคุณพระอาทิตย์เปลี่ยนทิศทางไป วันหนึ่งในขณะที่คุณพระอาทิตย์กำลังส่องแสงให้ต้นไม้ต้นอื่นได้เจริญเติบโต แสงแดดของคุณพระอาทิตย์ก็ได้ขยับและเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่ที่เราเคยอยู่ พลังงานความร้อนจากหลอดไฟจะไปสู้ความร้อนของคุณพระอาทิตย์ได้อย่างไรกัน ต้นไม้ต้นนี้จึงค่อยๆบิดเบี้ยวออกไปจากที่แห่งนี้และสุดท้าย เราก็ได้รับพลังงานจากคุณพระอาทิตย์ที่จะทำให้เราเติบโตและผลิบานได้อย่างเต็มที่
นี้คือเรื่องของคุณะพระอาทิตย์
เราชอบคุณพระอาทิตย์มากขึ้นทุก ๆวัน ในทุก ๆการกระทำของคุณพระอาทิตย์ทำให้เราอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก และเมื่อไม่นานมานี้ยิ่งเราได้รู้จักสวนดอกไม้แห่งความลับของคุณพระอาทิตย์แล้ว สิ่งนั้นทำให้เรายิ่งตกชอบคุณมากขึ้นไปอีก เราชอบทัศคติ วิธีการมองโลกในแง่ดีแบบคนที่มีประสบการณ์ผ่านโลกมามาก หรือจะเป็นความอ่อนโยนของคุณที่ได้มอบให้แก่ผู้อื่น เวลาเราเหนื่อยหรือท้อ เราจะแผ่ขยายใบเพื่อที่จะได้รับพลังงานจากคุณพระอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่ เรารู้สึกว่าเราอยากทำตัวเองให้เป็นคนดีกว่าเดิม เป็นคนที่เก่งกว่านี้ เพื่อที่วันหนึ่งคุณพระอาทิตย์ส่องแสงลงมา จะได้ภูมิใจในตัวเราว่าพลังงานของคุณนั้นทำให้เราเติบใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขา และหยั่งรากลึกลงไปในผืนดินได้อย่างหนักแน่น
เราไม่รู้ว่าเราจะชอบคุณพระอาทิตย์ไปได้อีกนานแค่ไหน แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วเราชอบคุณหรือรักคุณพระอาทิตย์กันแน่ แต่เราอยากจะบอกว่าขอบคุณคุณพระอาทิตย์มาก ๆที่ส่องแสงมายังเรา และเป็นกำลังใจให้เราในยามที่เรารู้สึกหมดหวัง คือในทุก ๆการกระทำของเรา เราก็ไม่อยากให้คุณพระอาทิตย์ผิดหวังในตัวเราเหมือนกัน ถึงแม้ว่าคุณพระอาทิตย์จะไม่รู้ต้นไม้ต้นนี้ผลิบานได้อย่างสวยงามแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณคุณพระอาทิตย์และสวนดอกไม้แห่งความลับของคุณที่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเราให้เป็นคนที่ดีขึ้นอีกหน่อยหนึ่ง ความจริงแล้วเราไม่ค่อยชอบแมวเท่าไหร่หรอก แต่เราอยากเลี้ยงแมวเพราะคุณพระอาทิตย์เลย คุณพระอาทิตย์เป็นคนรักสัตว์มาก ความจริงแล้วคุณก็ใจดีกับทุก ๆคนนั่นแหละ และก็ขอบคุณคุณพระอาทิตย์ที่ทำให้เรารู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นเมื่อมีคุณอยู่ เราว่าใครได้ดวงอาทิตย์ดวงนี้เป็นแฟนแม่งจะเป็นคนที่โคตรโชคที่สุดในโลกคนหนึ่งยิ่งกว่าแม่เราถูกหวย 200 ล้านอ่ะ อิจฉาว่ะ แต่ตอนนี้คุณพระอาทิตย์ก็ยังไม่มีแฟนเราก็ยังมีโอกาสใช่มั้ย? ฮ่า ๆ มโน แต่คุณส่องแสงสว่างและอยู่ไกลเกินไปจนต้นไม้อย่างเราเอื้อมไม่ถึง หากวันใดวงโคจรของระบบสุริยะเปลี่ยนไปและแรงโน้มถ่วงโลกเหวี่ยงให้เราสองคนหลุดออกจากวงโคจรนี้ เราหวังว่าจะได้เจอคุณที่จุดตัดจุดใดจุดหนึ่งบนจักรวาลนี้นะ
อีกอย่างหนึ่ง แม้ความคิดนี้จะสามารถเป็นจริงได้แค่ 1% ก็ตาม เราหวังว่าทั้งเราและคุณพระอาทิตย์จะเป็นอีกครึงหนึ่งของกันและกันที่โดนพระเจ้าฉีกออกมาตามเรื่องเล่านิทานของเพลโตนะ
เลดี้กลิตเตอร์วาวๆ อ่ะจริงดิ!
24/09/19
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก